การเพิ่มความเป็นอิสระของเด็กอย่างไร?

ตราบเท่าที่คุณมีลูกเล็ก ๆ เขาไม่สามารถทำได้โดยปราศจากความช่วยเหลือของคุณและคุณต้องการให้เขาเรียนรู้ทุกอย่างได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อคราวนี้คุณเริ่มกังวลมากยิ่งขึ้นและเข้าใจว่าคุณมีปัญหามากยิ่งขึ้น

เมื่อเปิดโปงคุณสามารถเลี้ยงตัวเองได้ง่ายกว่าการสังเกตตัวเองว่าตัวเองพยายามจะทำทุกอย่างอย่างไร หากคุณสังเกตเห็นว่าบุตรหลานของคุณกำลังพยายามทำอะไรบางอย่างด้วยตัวเองให้อดทนและให้โอกาสเขาพิสูจน์ตัวเอง

การเพิ่มความเป็นอิสระของเด็กอย่างไร? พ่อแม่หลายคนถามคำถามที่คล้ายกัน เราจะช่วยให้คุณสอนความเป็นอิสระของเด็ก

บ่อยครั้งที่เด็ก ๆ เมื่อได้รับอาหารให้ลองช้อนจากพ่อแม่ ให้โอกาสเด็กกินเอง แม้ว่าคุณจะเห็นว่าเด็กกำลังขว้างปาอาหารอยู่อย่าใช้ช้อนจากเขาและอย่าด่าว่าเขาด้วยวิธีใด นั่งข้างๆคุณและกินกับลูกน้อย หลังจากที่ทุกเด็กจะพยายามที่จะทำซ้ำพ่อแม่ของพวกเขา

เพื่อให้เด็ก ๆ คุ้นเคยกับหม้อก่อนทำความคุ้นเคยกับวัตถุใหม่ให้เขาสัมผัสเล่น จับตุ๊กตาและแสดงให้เด็ก ๆ เห็นว่าเธอเดินลงไปในหม้อ ลองสังเกตพฤติกรรมของเขาด้วย บ่อยครั้งมากเมื่อเด็ก ๆ ต้องการไปห้องน้ำพวกเขาก็เริ่มนั่งยอง ๆ จับช่วงเวลาเหล่านี้และวางไว้ในหม้อ พยายามอธิบายให้ลูกน้อยทราบว่าถ้าเขาไปห้องน้ำเขาจะแห้งตลอดเวลา สิ่งสำคัญคือต้องอดทนและสงบ

หากต้องการสอนเด็กให้แต่งกายด้วยตัวเองซื้อเสื้อผ้าที่หลวม ๆ โดยไม่ต้องยึดและวงเล็บที่ซับซ้อนใด ๆ และรองเท้าของเขาควรเป็น Velcro ขอบคุณเสื้อผ้าดังกล่าวเด็กจะเริ่มแต่งกายเป็นอิสระ

ถ้าคุณเห็นทันทีที่เด็กไม่สามารถแต่งตัวได้ช่วยเขาในเรื่องนี้ ยืนอยู่กับเขาที่ด้านหลังของคุณและเอามือของเขาในของคุณ และกับเขาเริ่มแต่งตัว หลังจากนั้นลูกน้อยของคุณจะสามารถทำซ้ำการเคลื่อนไหวของมือได้ง่ายขึ้น

เพื่อให้เด็กสามารถนำของเล่นมาเองได้คุณต้องอธิบายอย่างถูกต้อง แทนคำพูดปกติถอดของเล่นพยายามอธิบายให้เขาทราบว่าเขาควรจะใส่อะไรอยู่ หลังจากที่ทุกเด็กเองไม่ได้ทันทีเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการจากเขา บอกเด็กเช่นใส่เครื่องพิมพ์ดีดสีเหลืองลงในกล่องและวางตุ๊กตาไว้บนหิ้ง ดังนั้นเด็กจะเริ่มค่อยๆจำทุกอย่างและจะทำความสะอาดของเล่นเอง

มันไม่ยากที่จะคุ้นเคยกับเด็กที่เปล ขอให้เขาเลือกผ้าปูที่นอน ใส่โคมไฟกลางคืนในห้องของเขาเพราะเด็กบางคนกลัวที่จะหลับไปในที่มืด ก่อนที่คุณจะวางทารกนอนให้เขาวางของเล่นโปรดของเขาเพื่อนอนหลับและจากนั้นไปที่เตียงตัวเอง และถ้าเด็กเข้ามาในห้องตอนกลางคืนก็อย่าขับไล่เขาออกไปบางทีเขาอาจฝันร้าย

เราหวังว่าคำแนะนำของเราจะช่วยให้คุณได้รับความรู้อย่างถูกต้องในตัวเด็ก